หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ “ติดวัตถุมงคล ก็ยังดีกว่าที่จะให้ไปติดวัตถุอัปมงคล”

หลวงปู่ดู่ เป็นพระเกจิผู้ทรงคุณธรรมจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีนามเดิมว่า”ดู่ หนูศรี” หลวงปู่ดู่ได้อุปสมบท ณ วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยมีหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับฉายาว่า “พรหมปัญโญ” หลังจากอุปสมบท

หลวงปู่ดู่ เป็นพระเกจิผู้ทรงคุณธรรมจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีนามเดิมว่า “ดู่ หนูศรี” ท่านเกิดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ด้วยความที่มารดาของท่านเสียชีวิตตั้งแต่ท่านยังเป็นทารก และต่อมาบิดาก็จากไปเมื่อท่านอายุได้เพียง 4 ขวบ ทำให้ท่านกำพร้าตั้งแต่เด็ก
ซึ่งท่านได้อาศัยอยู่กับยายหลังจากนั้น

เมื่ออายุครบ 21 ปี หลวงปู่ดู่ได้อุปสมบท ณ วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับฉายาว่า
“พรหมปัญโญ” หลังจากอุปสมบท, หลวงปู่ดู่ได้ศึกษาพระธรรมวินัยและออกเดินธุดงค์เข้าป่าหลายแห่งในจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี และสระบุรี เพื่อปฏิบัติธรรมและฝึกจิตตนเองให้มีสมาธิยิ่งขึ้น, ช่วงแรกของการปฏิบัติธุดงค์ หลวงปู่ดู่เริ่มศึกษาวิชาคงกระพันชาตรี เนื่องจากท่านมีความตั้งใจจะสึกออกมาแก้แค้นโจรที่ปล้นบ้านและทำร้ายบิดามารดาของท่าน แต่หลังจากที่ท่านสำเร็จวิชา ท่านกลับเกิดปัญญาว่า ความอาฆาตแค้นนั้นทำร้ายจิตใจของตนเอง ท่านจึงยุติความตั้งใจเดิมและหันมาปฏิบัติธรรมเพื่อมุ่งสู่การหลุดพ้นแทน


หลวงปู่ดู่เป็นพระผู้มักน้อยสันโดษ ใช้ชีวิตเรียบง่ายและเคร่งครัด ท่านไม่เคยใช้สบู่ในการสรงน้ำ แต่พระอุปัฏฐากของท่านยืนยันว่าท่านไม่มีปัญหากลิ่นตัวแม้แต่ในห้องจำวัด หลวงปู่ยังเป็นผู้ที่ปฏิบัติตนอย่างซื่อสัตย์ต่อการใช้จ่ายลาภสักการะ ท่านมักยกสิ่งของและปัจจัยที่ได้รับถวายให้แก่สงฆ์ทั้งหมด เพื่อใช้ในกิจสาธารณประโยชน์ เช่น การสร้างโรงเรียนและโรงพยาบาล แม้ว่าหลวงปู่ดู่จะไม่ได้ตั้งตนเป็นพระเกจิอาจารย์ แต่ท่านก็เห็นความสำคัญของการสร้างพระเครื่องหรือวัตถุมงคล เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจให้แก่ศิษย์และผู้ที่ยังต้องอาศัยสิ่งยึดเหนี่ยว

ท่านเคยกล่าวว่า “ติดวัตถุมงคล ก็ยังดีกว่าที่จะให้ไปติดวัตถุอัปมงคล” โดยตัวอย่างวัตถุมงคลของท่าน คือ พระพรหมพิมพ์ใหญ่ ปี ๒๕๑๗ เหรียญเศรษฐี
ปี ๒๕๓๑ และเหรียญหลวงปู่ทวด พิธีเปิดโลก ปี ๒๕๓๒ เป็นต้น