หลวงพ่อเที่ยง จันทสโร เป็นคนจังหวัดกาญจนบุรี ในวัยเด็กหลวงพ่อเที่ยงใช้ชีวิตแบบเด็กชนบททั่วไป
ช่วยครอบครัวทำนาและมีนิสัยรักความยุติธรรม เป็นที่รักของเพื่อนฝูงและเป็นผู้นำในกลุ่มเด็กวัยเดียวกัน
เมื่ออายุครบ 21 ปี หลวงพ่อเที่ยงได้เข้ารับการเกณฑ์ทหารตามกฎหมาย และหลังจากปลดประจำการ ท่านจึงได้อุปสมบทตอนอายุ 24 ปี ณ วัดบ้านถ้ำ หลังจากบวช ท่านย้ายมาจำพรรษาที่วัดม่วงชุม ซึ่งเป็นวัดใกล้บ้าน เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและพิธีกรรมทางศาสนา ท่านยังศึกษาเพิ่มเติมทางด้านวิปัสสนากรรมฐานและวิชาไสยเวชจากหลวงพ่อปู่เปลี่ยน วัดใต้ ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่าน
หลวงพ่อเที่ยงมีความเชี่ยวชาญในวิทยาคมเป็นอย่างมาก วัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสกนั้นมีชื่อเสียงเรื่องความคงกระพันชาตรี เป็นที่นิยมในหมู่ลูกศิษย์และผู้ศรัทธา ชาวบ้านเชื่อกันว่า “ใครแขวนวัตถุมงคลของท่าน แมลงวันไม่ได้กินเลือด” ซึ่งหมายถึงความคงกระพันชาตรีของวัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้น
หลวงพ่อเที่ยงเป็นพระที่มีเมตตา ชาวบ้านที่มาขอความช่วยเหลือจากท่านต่างได้รับความช่วยเหลือเสมอ
ท่านชอบกีฬาชกมวยและสนใจลิเกและหนังตะลุง อีกทั้งยังเป็นที่รักและเคารพของชาวบ้านในพื้นที่ ท่านสร้างอุโบสถที่วัดม่วงชุมในปี พ.ศ. 2484 โดยไม่มีการเรี่ยไรเงินจากชาวบ้าน เนื่องจากประเทศยังอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวบ้านจึงช่วยกันบริจาคทุนทรัพย์จนการก่อสร้างสำเร็จในปี พ.ศ. 2494
หลวงพ่อเที่ยงได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูจันทสโรภาส เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2505 และต่อมาได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูจันทสโรภาส เจ้าคณะตำบลชั้นโทในปี พ.ศ. 2510 และชั้นเอกในปี พ.ศ. 2520
ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2523 สิริอายุได้ 92 ปี หลังจากมรณภาพ ชาวบ้านได้เก็บรักษาร่างของท่านไว้ในโลงแก้ว และร่างของหลวงพ่อเที่ยงไม่เน่าเปื่อยจนถึงปัจจุบัน ชาวบ้านเชื่อว่าท่านยังคงปกปักษ์รักษาและคุ้มครองผู้ที่มาขอพรจากท่าน
