หลวงพ่อถิร เกิด ที่บ้านพูลหลวง ตำบลพิหารแดง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี ท่านสืบเชื้อสายมาจากตระกูลผู้ใหญ่ที่มีฐานะทางสังคมและศักดิ์ศรีตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ หลวงพ่อถิรเริ่มบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 17 ปี
ต่อมาท่านได้อุปสมบทที่วัดหน่อพุทธางกูร โดยมีพระครูโพธาภิรัต (สอน) เป็นพระอุปัชฌาย์ และหลวงพ่อคำ วัดหน่อพุทธางกูร เป็นพระคู่สวด ท่านได้รับฉายาว่า “ปญฺญาปโชโต” ซึ่งแปลว่า “ผู้มีปัญญาอันรุ่งเรือง”
หลังจากอุปสมบท ท่านได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดสุวรรณภูมิ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดจนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอกเป็นรูปแรกของจังหวัดสุพรรณบุรี
เมื่อหลวงพ่อถิรมีอายุ 38 ปี และพรรษาที่ 18 ท่านได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระสังฆราช (แพ)วัดสุทัศน์ ให้ย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2483 และเป็นผู้รักษาการตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเมืองสุพรรณบุรี
ท่านทำงานพัฒนาวัดป่าเลไลยก์จนเจริญรุ่งเรือง พร้อมกับได้รับการยอมรับจากประชาชนในฐานะพระเกจิผู้มีพุทธาคมเข้มขลัง
ในช่วงที่ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์ มีเหล่าขุนโจรชื่อดังเช่น เสือฝ้าย เสือมเหศวร และเสือใบ มาหาท่านเพื่อขอเครื่องรางของขลังเสมอ โดยโจรเหล่านี้ยังประกาศว่าจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายหรือรบกวนการพัฒนาวัด ของหลวงพ่อถิร
มีคำกล่าวในท้องถิ่นว่า “หลวงพ่อถิรเลี้ยงโจร” แต่หลวงพ่อถิรกล่าวว่า “ข้าไม่ได้เลี้ยงพวกมันหรอก มันเลี้ยงข้าตะหาก” นอกจากพุทธาคมที่เข้มขลังแล้ว หลวงพ่อถิรยังเป็นพระที่มีศีลาจารวัตรงดงาม เคร่งครัดในพระธรรมวินัยและเปี่ยมด้วยเมตตาธรรม ท่านได้รับนิมนต์ไปในพิธีพุทธาภิเษกสำคัญๆ ทั่วประเทศ ท่านได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น พระขุนแผนรุ่นต่าง ๆ และเหรียญจตุรพิธพรชัย