
พระเครื่องไทยมีการสร้างขึ้นจากหลากหลายมวลสาร
ซึ่งมีความแตกต่างกันในเรื่องของลักษณะทางกายภาพและพุทธคุณ โดยสามารถจำแนกได้ 5 ประเภทหลักๆ ดังนี้

พระเครื่องเนื้อดิน
ถือเป็นพระเครื่องที่เก่าแก่ที่สุด วัสดุหลักคือดินที่นำมาจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีพิธีกรรมเพื่อเพิ่มพุทธคุณ ก่อนนำไปผสมและกดลงแม่พิมพ์ จากนั้นนำไปเผาหรืออบ เช่น พระรอด และพระนางพญา พระดินที่ผ่านการเผามีความทนทานกว่าแบบที่ผ่านการตากแดด (พระดินดิบ) ซึ่งมีความคงทนน้อยกว่า

พระเครื่องเนื้อชิน
ทำจากการหลอมโลหะสองชนิด เช่น ดีบุกและตะกั่ว แบ่งเป็นเนื้อชินเงิน ชินสนิมแดง และชินสนิมแดงตะกั่ว พระเนื้อชินที่มีอายุหลายร้อยปีมักถูกเก็บไว้ในกรุ เช่น พระหูยาน และพระมเหศวร

พระเครื่องเนื้อผง
มักสร้างโดยการผสมผงมวลสารศักดิ์สิทธิ์ตามสูตรของพระเกจิอาจารย์ในแต่ละยุคสมัย เป็นพระเครื่องที่ได้รับความนิยมเพราะมีพุทธคุณที่ดี

พระเครื่องเนื้อโลหะ
พระเนื้อโลหะนี้จะคล้ายๆ กับเนื้อชิน ตรงที่เป็นการนำส่วนผสมต่างๆ ที่มีความสำคัญนำมาผสมรวมกันกับโลหะ สร้างพระใหม่ขึ้นมา ซึ่งมี 4 ชนิดด้วยกัน คือ 1. พระเนื้อทองคำ
2. พระเนื้อเงิน
3. พระเนื้อทองแดง
4. พระเนื้อตะกั่ว
สังเกตง่ายๆ พระเนื้อโลหะก็คือ เช่น พระรูปหล่อ เหรียญต่างๆ พระกริ่ง พระบูชาตามยุคต่างๆ เช่น เชียงแสน อยุธยา รัตนโกสินทร์ เป็นต้น

พระเนื้อว่าน ตั้งแต่อดีตโบราณมาแล้วคนไทยเราก็มีความผูกพันกับไม้ตระกูลว่านมานานแล้ว ทั้งเอามาใช้ทำยา แถมยังเชื่อว่าพืชตระกูลนี้จะช่วยให้อยู่ยงคงกระพัน เป็นสิริมงคลกับชีวิต ดังนั้นจึงมีการสร้างสิ่งมงคลในรูปแบบพระเครื่องที่ทำจากว่านเหล่านี้อยู่เยอะแยะมากมาย พระเครื่องหลายๆ ชิ้นมีส่วนของว่านผสมอยู่ ไม่ว่าจะเป็น พระกรุทุ่งเศรษฐี พระผงสุพรรณ พระนางพญา พระสมเด็จวัดระฆัง เป็นต้น
การเลือกพระเครื่องขึ้นอยู่กับความเชื่อและความศรัทธาของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ในปัจจุบันก็มีการผลิตสร้างพระเครื่องออกมาทุกเนื้อ ด้วยการรวบรวมมวลสาร แล้วผลิตออกมาเพื่อให้ผู้ที่เช่าซื้อสามารถมีตัวเลือกได้ ราคาเช่าจะแตกต่างตามเนื้อด้วย ทำให้ทั้งนี้การจะเลือกบูชาพระเครื่องจึงเป็นที่สะดวกใจและสะดวกเงินในกระเป๋าของผู้ที่อยากได้