หลวงพ่อเขียว เกิดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สมัยยังเด็กหลวงพ่อเรียนหนังสือกับพ่อแม่จนกระทั่งอ่านเขียนได้ตามอักขระสมัย และท่านเองเป็นคนที่ชอบศึกษาเล่าเรียนเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังสนใจศึกษาวิชาอาคมตามประเพณีไทยสมัยก่อนอีกด้วย
เมื่ออายุได้ 18 ปี ท่านก็ได้ตัดสินใจที่จะบวชเป็นสามเณร และเมื่ออายุได้ 20 ปี ท่านจึงเข้าอุปสมบทในปีพ.ศ. 2444 ณ วัดคงคาวดี ซึ่งได้รับฉายาว่า “อินทมุนี” หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านก็อยู่รับใช้ปรนนิบัติพระอุปัชฌาย์ รับฟังโอวาทจากพระอุปัชฌายะชั่วระยะเวลาหนึ่ง
จากนั้นท่านก็กราบลาพระอุปัชฌาย์ ไปศึกษาเล่าเรียนต่อกับ พระอาจารย์เอียดวัดบน ท่านศึกษาธรรมะกับพระอาจารย์อยู่นานหลายปีจนท่านตั้งใจว่าจะบวชอยู่ในพุทธศาสนาตลอดไป เมื่อตั้งใจเช่นนั้นแล้ว หลวงพ่อเขียวเลยตัดสินใจเดินธุดงค์อยู่เป็นประจำ คือ ถือผ้านุ่งห่มบังสกุล 3 ชิ้น มีผ้าสบง อังสะ จีวร บิณฑบาตร และฉันอาหารเพียงมื้อเดียว
หลังจากนั้นท่านจึงไปกราบลาอาจารย์เพื่อเดินธุดงค์เข้าป่าไปตามทางที่ลำบากยากเข็ญ และธุดงค์ไปบำเพ็ญสมาธิ ฝึกจิตให้มีความกล้าแกร่งขึ้น โดยท่านไม่ได้เดินทางไปเพียงลำพังแต่มีเพื่อนร่วมเดินทางไปกับท่านด้วย นั่นคือ พระครูนนทจรรยาวัตรหรือพระครูนนท์ ยอดพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งของภาคใต้
ท่านได้สร้างลูกอมและผ้ายันต์รอยมือรอยเท้าซึ่งมีหลายแบบ โดยผ้ายุคแรก ๆ จะประทับด้วยผงขมิ้นละลายน้ำ รุ่นหลังจากนั้นจะประทับด้วยคราม หมึกน้ำเงิน และหมึกดำ ส่วนผ้าบางผืนก็มีแต่รอยเท้าอย่างเดียว ซึ่งถือว่าเป็นที่นิยมกันเป็นอย่างมาก
พระเครื่องและวัตถุมงคลของท่านได้รับความนิยมสูงมาก เช่น เหรียญรูปเหมือน, รูปหล่อลอยองค์, ผ้ายันต์รอยมือรอยเท้า, เชือกคาดเอว, ลูกอม, ตะกรุด และพระปิตตา
