หลวงพ่อเต้า ห้วยหงส์ทอง เกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณธรรมจากจังหวัดนครปฐม ท่านเกิดที่จังหวัดนครปฐม มีนามเดิมว่า "เต้า ห้วยหงส์ทอง" เมื่ออายุครบ 21 ปี ท่านจึงอุปสมบท ที่วัดตาก้อง โดยมีพระครูอุตรการบดี (หลวงพ่อสุข ปทุมสุวณฺโณ) วัดห้วยจระเข้ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากอุปสมบท ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยและฝึกฝนวิชาสมาธิวิปัสสนากัมมัฏฐานอย่างตั้งใจภายใต้การชี้แนะของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จนกระทั่งเกิดความชำนาญ หลังบวชได้ 5 พรรษา หลวงพ่อเต้าได้ออกธุดงค์ไปทางภาคเหนือและศึกษาธรรมะเพิ่มเติม เมื่อกลับจากธุดงค์ ท่านได้ย้ายไปจำพรรษาตามวัดต่างๆ เช่น วัดห้วยจระเข้และวัดนางสาว เพื่อแสวงหาความรู้เพิ่มเติม จนในปี พ.ศ. 2495 ท่านไปดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดเกาะวังไทร แทนพระใบฎีกาล้งที่ย้ายไปวัดห้วยจระเข้ และในปี พ.ศ. 2501 ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเกาะวังไทรอย่างเป็นทางการ หลวงพ่อเต้าได้รับการนิมนต์ให้เข้าร่วมพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลบ่อยครั้ง...

การห้อยพระเครื่องถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องให้ความเคารพหากทำผิดวิธีอาจทำให้เกิดผลเสียหรือความไม่เป็นสิริมงคลได้ โดยคำสอนเกี่ยวกับข้อห้ามเมื่อแขวนพระ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งที่ไม่ดี มีดังนี้: ห้ามห้อยพระเครื่องต่ำกว่าบริเวณเอวการห้อยพระเครื่องไว้ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าบริเวณเอวถือว่าไม่เคารพพระพุทธเจ้าเพราะพระพุทธรูปเป็นสิ่งที่ควรเคารพบูชาตำแหน่งที่เหมาะสมคือบริเวณหน้าอกหรือใกล้หัวใจ ห้ามสวมพระเครื่องเวลามีเพศสัมพันธ์การสวมพระเครื่องในขณะมีเพศสัมพันธ์ถือว่าไม่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพราะเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความต้องการทางกายการถอดพระเครื่องออกก่อนจะเป็นการแสดงความเคารพต่อพระรัตนตรัย ห้ามใส่พระเครื่องเข้าไปในห้องน้ำการนำพระเครื่องเข้าไปในห้องน้ำถือว่าไม่เหมาะสมเพราะห้องน้ำเป็นสถานที่ไม่สะอาดและไม่ควรให้พระพุทธรูปอยู่ในที่ดังกล่าวควรถอดออกก่อนเข้าห้องน้ำเพื่อรักษาความเคารพ ห้ามวางพระเครื่องในที่ต่ำหรือใกล้พื้นการวางพระเครื่องไว้ในที่ต่ำ เช่น พื้นดิน หรือตามพื้นบ้านถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเพราะเป็นการดูหมิ่นพระเครื่องที่เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า ควรเก็บไว้ในที่สูงและสะอาด ห้ามสวมพระเครื่องที่ชำรุดหรือเสียหายพระเครื่องที่ชำรุดหรือแตกหักไม่ควรสวมใส่เพราะอาจถือว่าเป็นการไม่เคารพพระเครื่องควรเก็บรักษาไว้ในที่เหมาะสมหรือส่งให้ช่างซ่อมแซม ห้ามสวมพระเครื่องหลายองค์จนเกินไป การสวมพระเครื่องหลายองค์จนเกินไปอาจทำให้ขาดสมาธิและความเคารพในการบูชาพระควรเลือกห้อยเพียงหนึ่งหรือสององค์ที่ศรัทธา เพื่อให้จิตใจจดจ่อในการบูชาอย่างเต็มที่ ห้ามห้อยพระเครื่องในขณะที่มีอารมณ์โมโหหรือคิดไม่ดีเมื่อมีอารมณ์โกรธหรือคิดไม่ดี ควรสงบสติอารมณ์ก่อนห้อยพระเพราะพลังของพระเครื่องทำงานตามเจตนาของผู้สวมใส่การมีจิตใจไม่สงบจะทำให้การสวมพระไม่เกิดผลดี ห้ามสวมพระเครื่องที่มีพลังขัดแย้งกันพระเครื่องบางประเภทมีพลังที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ เช่นพระเครื่องที่มีอำนาจทางเมตตามหานิยมและพระเครื่องที่มีพลังปกป้องควรเลือกใส่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการ ห้ามวางพระเครื่องใกล้ของมีคมหรือวัตถุอันตรายการวางพระเครื่องใกล้ของมีคมหรือวัตถุที่เกี่ยวข้องกับอันตราย เช่น มีด หรือปืนถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะอาจทำให้พลังของพระเครื่องไม่เกิดผลหรือถูกขัดขวาง ห้ามใช้พระเครื่องเพื่อจุดประสงค์ที่ไม่ดีการใช้พระเครื่องเพื่อสิ่งที่ไม่ดี เช่น การกระทำผิดกฎหมายหรือการทำร้ายผู้อื่นถือเป็นการไม่เคารพพระเครื่องและผิดศีลธรรม ควรสวมพระเครื่องด้วยเจตนาดีและเพื่อเสริมสร้างความเจริญในชีวิตการปฏิบัติตามข้อห้ามเหล่านี้จะช่วยให้การสวมใส่พระเครื่องเป็นสิ่งที่นำพาความเป็นสิริมงคลและปกป้องคุ้มครองได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังแสดงถึงความเคารพต่อพระพุทธคุณ พระธรรมและพระสงฆ์

เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นที่นับถือโดยทั่วไปในด้านปาฏิหาริย์ พระพุทธคุณของท่านมากมายยิ่งนักทั้งในด้านเมตตา มหาอุต คงกระพัน และแคล้วคลาด เป็นที่ยอมรับด้วยกันมานาน แม้แต่ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (แพ ติสฺสเทโว) , พระพุทธวิถีนายก (บุญ ขนฺธโชติ) , หลวงพ่อทับ วัดทอง ยังมีความเคารพนับถือ และมีพระเครื่องของหลวงพ่อเนียมในครอบครอง ประวัติ หลวงพ่อเนียม วัดน้อย เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2370 ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ของกรุงรัตนโกสินทร์ บิดาเป็นชาวบ้านซ่อง ต.มดแดง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ไม่ทราบชื่อ ส่วนมารดาเป็นชาวบ้านป่าพฤกษ์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ชื่อว่า เนื่อง หลวงพ่อเนียมมีพี่น้องร่วมอุทรเดียวกันหลายคน...

หลวงพ่อเนื่อง เถาสุวรรณ ท่านเป็นคนจังหวัดสมุทรสงคราม ได้รับการศึกษาในระดับประถมที่โรงเรียนวัดบางกะพ้อม จนกระทั่งจบการศึกษาเมื่อปี พ.ศ. 2463 เมื่ออายุ 23 ปี ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดบางกะพ้อม โดยมีหลวงพ่อคง ธัมมโชโต เจ้าอาวาสวัดบางกะพ้อมเป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากอุปสมบท ท่านได้มุ่งมั่นศึกษาและปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด จนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอกได้ หลวงพ่อเนื่องได้ศึกษาและฝึกฝนพุทธาคมจากพระอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงในสมุทรสง คราม เช่น หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ซึ่งเป็นเกจิอาจารย์ที่โด่งดัง นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้สรรพวิทยาคมจากหลวงพ่อแช่ม วัดจุฬามณี และหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ผู้เชี่ยวชาญด้านตะกรุดและลูกอมปรอท ท่านจึงเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในวิปัสสนากรรมฐานและวิทยาคมเป็นอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาที่ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดจุฬามณี หลวงพ่อเนื่องได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างมาก วัดจุฬามณีเป็นวัดโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่เดิมมีอาคารที่สร้างจากไม้สักซึ่งเสื่อมโทรมตามกาลเวลา หลวงพ่อเนื่องได้ดูแลการซ่อมแซมและสร้างความแข็งแรงให้กับวัด โดยเฉพาะอุโบสถและกุฏิที่ได้รับการบูรณะจนกลับมาสวยงามอย่างสมบูรณ์ มีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับหลวงพ่อเนื่องในด้านการใบ้หวย ซึ่งทำให้ท่านถูกตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องสมณศักดิ์ โดยครั้งหนึ่ง มีพระเถระรูปหนึ่งท้าทายท่านให้พิสูจน์ความสามารถในการเห็นเลขเด็ด หลวงพ่อเนื่องได้เขียนตัวเลขรางวัลที่ 1...